ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
1.3) ทรัพยากรน้ำ
3.1) ทรัพยากรน้ำผิวดิน
จังหวัดขอนแก่น ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บนพื้นที่สูงโคราชโดยมีพื้นที่อยู่ในเขตของลุ่มน้ำหลัก 2 ลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำมูล และลุ่มน้ำชี พื้นที่ลุ่มน้ำมูล ได้แก่กลุ่มลุ่มน้ำสาขาที่ไหลลงลำห้วยแอก กลุ่มลุ่มน้ำที่ไหลลงลำห้วยสะแทด และกลุ่มลุ่มน้ำสาขาที่ไหลลงลำน้ำพองตอนล่าง กลุ่มลุ่มน้ำที่ไหลลงแม่น้ำชี และกลุ่มลุ่มน้ำสาขาลำปาวตอนบน โดยมีลำน้ำสายหลักที่ไหลผ่านจังหวัดขอนแก่น ได้แก่ ลำน้ำพอง ลำน้ำเชิญ และลำน้ำชี คุณภาพน้ำในลำน้ำสายหลักของจังหวัดขอนแก่น ได้แก่ แม่น้ำพอง ชี และเซิน ในช่วงฤดูแล้งคุณภาพน้ำค่อนข้างเสื่อมโทรมกระทบต่อการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ และการอุปโภคบริโภคของประชาชน โดยเฉพาะคุณภาพในกม่น้ำชีช่วงที่ไหลผ่านอำเภอชนบท อำเภอมัญจาคีรี และอำเภอเมือง บริเวณตำบลท่าพระ มีค่าการนำไฟฟ้าสูงเนื่องจากเกิดการชะล้างจากพื้นที่ดินเค็ม นอกจากนี้ การขยายตัวของชุมชนอย่างรวดเร็วทำให้มีการปล่อยน้ำทิ้งลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ โดยมิได้ผ่านการบำบัด ทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติมีคุณภาพเสื่อมโทรม ได้แก่ ลำห้วยจิกในพื้นที่อำเภอบ้านไผ่ ลำห้วยพระคือ และบึงหนองโคตรในพื้นที่อำเภอเมือง สำหรับลำน้ำพอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก เช่น โรงงานผลิตเยื่อกระดาษ โรงงานน้ำตาล โรงงานผลิตสุรา เป็นต้น และการขยายตัวของการเลี้ยงปลาในกระชัง ส่งผลกระทบทำให้คุณภาพน้ำเสื่อมโทรมในช่วงฤดูแล้ง
ตาราง : ข้อมูลพื้นที่ลุ่มน้ำจังหวัดขอนแก่น (ที่มา : โครงการชลประทานขอนแก่น )
ลำดับที่ | ลุ่มน้ำย่อย | พื้นที่รับน้ำฝน (ตร.กม.) | ปริมาณน้ำท่ารายปีเฉลี่ย (ล้าน ลบ.ม.) |
1 | ลุ่มน้ำห้วยแอก | 859.39 | 120.93 |
2 | ลุ่มน้ำลำสะแทด | 77.86 | 11.83 |
3 | ลุ่มน้ำพังชู | 189.89 | 26.86 |
4 | ลุ่มน้ำชีส่วนที่ 2 | 350.49 | 37.29 |
5 | ลุ่มน้ำชีส่วนที่ 3 | 3,244.00 | 362.23 |
6 | ลุ่มน้ำลำห้วยสามหมอ | 98.29 | 15.58 |
7 | ลุ่มน้ำพองตอนบน | 2,150.49 | 411.78 |
8 | ลุ่มน้ำพองตอนล่าง | 2,194.42 | 359.69 |
9 | ลุ่มน้ำลำปาวตอนบน | 95.52 | 26.38 |
10 | ลุ่มน้ำเชิญ | 1,168.57 | 174.53 |
11 | ลุ่มน้ำห้วยสายบาตร | 457.06 | 87.82 |
รวม | 10,885.98 | 1,634.92 |
3.2) แหล่งน้ำบาดาลและการใช้น้ำใต้ดิน
บ่อบาดาลในจังหวัดขอนแก่นมีจำนวน 6,462 บ่อ บ่อน้ำบาดาลส่วนใหญ่จะใช้ประโยชน์ เพื่อการผลิตน้ำประปาหมู่บ้านและเพื่อการอุปโภคบริโภคในครัวเรือน ส่วนบ่อบาดาลที่ใช้สำหรับกิจกรรมอื่น ๆ เช่น เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การประมง และการเลี้ยงสัตว์ มีอยู่บ้างแต่เป็นจำนวนไม่มากนัก จำนวนบ่อบาดาลที่ดำเนินการขุดเจาะโดยหน่วยงานต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
ตาราง แสดงจำนวนบ่อดาบาลในจังหวัดขอนแก่น
ประเภท | จำนวน |
1) บ่อน้ำบาดาล (บ่อ) - ใช้การได้ (บ่อ) - หมดสภาพ (บ่อ) |
6,462 6,066 396 |
2) จุดจ่ายน้ำ (แห่ง) | 71 |
3) น้ำดื่มได้ | 39 |
4) ระบบประปาบาดาล (แห่ง) * | 1,705 |
รวม | 8,167 |
ที่มา : ศูนย์ทรัพยากรน้ำบาดาลภาค 3 ขอนแก่น , ปี 2555
หมายเหตุ * = ผลการสำรวจปี 2548 เป็นบ่อที่หมดสภาพเป็นบ่อที่รออุดกลบภายหลัง
3.3) ชลประทาน
จังหวัดขอนแก่นแหล่งน้ำชลประทาน 15 โครงการ จำแนกเป็นโครงการขนาดกลาง 14 แห่ง มีพื้นที่รองรับน้ำฝน 2,331.62 ตร.กม. มีพื้นที่ชลประทานทั้งสิ้น 39,006 ไร่ และโครงการชลประทานขนาดใหญ่ 1 แห่ง คือ โครงการน้ำพอง -หนองหวาย โดยทดน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ ความจุ 2,263.6 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่ชลประทาน 257,000 ไร่ รวมชลประทาน 15 แห่ง มีพื้นที่รับน้ำฝนรวมทั้งหมด 2,331.62 ตร.กม. มีสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าทั้งหมด 105 สถานี พื้นที่โครงการ 262,116 ไร่ พื้นที่ส่งน้ำ 199,420 ไร่ และมีพื้นที่ชลประทาน รวม 296,006 ไร่
3.4) เขื่อนอุบลรัตน์
เขื่อนอุบลรัตน์ ตั้งอยู่ที่ตำบลอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ ห่างจากตัวเมืองขอนแก่น 50 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 (ขอนแก่น - อุดรธานี) สร้างขึ้นเมื่อปี 2507 แล้วเสร็จในปี 2508 งบประมาณ 557 ล้านบาท โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตน์ราชกัญญา ทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนอุบลรัตน์ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2509 เขื่อนอุบลรัตน์สร้างปิดกั้นลำน้ำพองบริเวณพองหนีบ ความกว้างสันเขื่อน 6 เมตร ฐานเขื่อนกว้าง 125 เมตร ความสูงของเขื่อน 188.10 เมตร ความยาวสันเขื่อน 885 เมตร ปริมาตรตัวเขื่อน 580,000 ลบ.ม. ความจุที่ระดับเก็บกักปกติ 2,263.6 ลบ.ม. ผลิตพลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละ 56.1 ล้านกิโลวัตต์/ชั่วโมง และสร้างอาชีพการประมงแก่ราษฎรกว่า 4,800 ครอบครัว นอกจากนี้ยังช่วยเกษตรกรที่อยู่บริเวณใกล้เคียง สามารถทำการเกษตรได้เพิ่มขึ้น 300,000 ไร่ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่น
สภาพปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำ มี 3 กลุ่ม คือ
(1) ปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง
(2) ปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน
(3) ปัญหาน้ำเน่าเสีย เกิดจากน้ำทิ้งชุมชน ฟาร์มปศุสัตว์ และโรงงานอุตสาหกรรม
ความต้องการใช้น้ำ
ปริมาณความต้องการใช้น้ำหลัก โดยพิจารณาเฉพาะเพื่อการชลประทาน อุปโภค บริโภค และอุตสาหกรรม ทั้งในปัจจุบันและอนาคต จำแนกความต้องการใช้น้ำแยกตามกลุ่มน้ำย่อยจังหวัดขอนแก่น พบว่า ลำน้ำที่มีปริมาณความต้องการใช้น้ำมากที่สุด คือ ลำน้ำพอง และลำน้ำชี ตามลำดับ ดังแสดงตามตาราง
ตาราง : ข้อมูลปริมาณความต้องการใช้น้ำแยกตามลุ่มน้ำย่อยจังหวัดขอนแก่น ()
# |
ลุ่มน้ำย่อย |
ปริมาณความต้องการใช้น้ำรวม (ล้านลูกบาศก์เมตร) | |||||
สภาพปัจจุบัน | สภาพอนาคต | ||||||
ฤดูฝน | ฤดูแล้ง | ทั้งปี | ฤดูฝน | ฤดูแล้ง | ทั้งปี | ||
1 | ลำน้ำชีส่วนที่ 2 | 22.23 | 3.40 | 25.64 | 30.69 | 6.68 | 37.93 |
2 | ลำน้ำชีส่วนที่ 3 | 263.66 | 38.71 | 302.37 | 270.24 | 45.29 | 315.52 |
3 | ลำน้ำพองตอนบน | 113.11 | 35.71 | 168.82 | 228.31 | 74.47 | 302.78 |
4 | ลำน้ำพองตอนล่าง | 283.36 | 150.26 | 433.63 | 295.09 | 161.99 | 457.08 |
5 | ห้วยสามหมอ | 4.50 | 0.80 | 5.30 | 4.51 | 0.81 | 5.32 |
6 | ลำน้ำเชิญ | 192.83 | 46.31 | 239.14 | 302.57 | 80.21 | 382.78 |
7 | ห้วยสายบาตร | 23.71 | 4.44 | 28.16 | 24.62 | 5.35 | 29.98 |
8 | ลำปาวตอนบน | 3.35 | 2.13 | 5.47 | 7.83 | 3.91 | 11.74 |
9 | ห้วยแอก | 27.10 | 4.44 | 31.54 | 28.62 | 4.79 | 33.42 |
10 | ลำสะแทด | 4.31 | 0.74 | 5.05 | 5.11 | 0.92 | 6.03 |
11 | ลำพังชู | 11.67 | 1.91 | 13.57 | 11.69 | 1.93 | 13.62 |
รวม | 949.83 | 288.85 | 1,258.69 | 1,209.28 | 386.35 | 1,596.20 |