บทแถลงข่าว งานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี ๒๕๕๗

บทแถลงข่าว
งานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น
ประจำปี ๒๕๕๗
ในส่วนคุ้มวัฒนธรรม ศาลาผูกเสี่ยว
โดย ดร.พงษ์ศักดิ์  ตั้งวานิชกพงษ์
วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๕.๐๐ น. ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น
*****************
กล่าวทักทาย
• ท่านผู้ร่วมแถลงข่าว คุณพัชนี  สภา ผอ.กลุ่มงานส่งเสริมศาสนาและวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น , คุณเอกชาตรี   สุขเสน ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน  และท่าน ดร.วิทยา  ทองดี ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
• ท่านผู้มีเกียรติ
• พี่น้องสื่อมวลชนทุกท่านครับ

กิจกรรมประเพณีผูกเสี่ยวในคุ้มวัฒนธรรม
การผูกเสี่ยวนั้น จะมีพิธีกรรมและอุปกรณ์ที่สำคัญ ประกอบด้วยพานบายศรีอาจเป็นบายศรี ๓ ชั้น ๕ ชั้น หรือ ๗ ชั้น และมีเครื่องประกอบอีกหลายอย่าง ได้แก่ สุรา ๑ ขวด ไข่ไก่ต้ม ๑ ฟอง ข้าวต้มมัด ๔ ห่อ กล้วยสุก ๔ ผล ข้าวเหนียวนึ่ง ๑ ปั้น ใบพืชที่เป็นมงคล เช่น ใบคูน ใบเงิน ใบทอง ใบยอ ดอกรัก และที่ขาดไม่ได้คือ ฝ้ายผูกแขน 
และมีการเชิญแขกมงคลมาร่วมพิธี มีคู่เสี่ยวนั่งล้อมพานบายศรี แล้วหมอพราหมณ์จะเริ่มพิธีด้วยการจุดเทียนที่พานบายศรี อัญเชิญเทวดาลงมาเป็นสักขีพยาน  ตะโกนเรียกขวัญของผู้ร่วมพิธีให้มาอยู่กับเนื้อกับตัว
จบแล้วหมอพราหมณ์และแขกมงคลจะนำด้ายมงคลผูกข้อมือของคู่ขวัญหรือคู่เสี่ยว พร้อมทั้งให้ศีลให้พร ให้รักใคร่สามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
ต่อจากนั้นคู่เสี่ยวก็จะผูกข้อมือซึ่งกันและกันเป็นอันเสร็จพิธี   
พิธีผูกเสี่ยวนี้จะทำให้พี่น้องชาวอีสานและชาวจังหวัดขอนแก่นเกิดความห้วงแหนและช่วยกันอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามนี้ไว้
ทำไมองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น จึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดงานเทศกาลไหมประเพณีผูกเสี่ยว ก็ขอเรียนว่า “เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ” หน้าที่ในการบำรุงศิลปะจารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น  ที่สำคัญคือได้รับเกียรติจากจังหวัดขอนแก่น ในการจัดงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๗ โดยได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดกิจกรรมที่คุ้มวัฒนธรรม หรือที่เรียกว่า ศาลาผูกเสี่ยว จนถึงปัจจุบัน
สำหรับกิจกรรมในศาลาผูกเสี่ยว ในช่วงงานเทศกาลไหมนานาชาติ  ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี ๒๕๕๗ มีหลากหลาย  ตื่นตาตื่นใจสมกับการเป็นคุ้มวัฒนธรรมจริง ๆ และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมอีสานด้วย ครับ    กิจกรรมมีทั้งภาคกลางวัน และกลางคืนตลอดการจัดงาน ที่น่าสนใจมีดังนี้ครับ
๑.การประกวดพานบายศรี
๒.พิธีผูกเสี่ยว โดยในวันแรกของงานจะมีพิธีผูกเสี่ยวเอก ๙ คู่ ซึ่งเป็นคู่เสี่ยวจากภาคราชการ ธุรกิจเอกชน และประชาชน
สำหรับในวันอื่น ๆ ก็จะมีพิธีผูกเสี่ยวของคู่เสี่ยวเฉลิมพระเกียรติ ๙ คู่ ในทุกคืน 
และในทุกคืน ท่านที่มาชมงานในคุ้มวัฒนธรรม สามารถที่จะพาเพื่อนรัก เพื่อนสนิทมาผูกเสี่ยวได้ จะเป็นชายคู่กับชาย  หญิงคู่กับหญิง  หรือหญิงคู่กับชาย ก็ได้ หรือมากันหลายคนจะผูกเสี่ยวหมู่ก็ได้   โดย อบจ.ขอนแก่น ได้จัดหมอพราหมณ์ไว้บริการทำพิธีคืนละ ๒ ท่าน  และทุกท่านที่มาผูกเสี่ยวจะได้รับเกียรติบัตร ซึ่งลงนามรับรองโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น    เรียนว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น นะครับ
ทั้งนี้ก่อนที่จะผูกเสี่ยวกัน ท่านจะได้รับความรู้จากวีดีทัศน์เกี่ยวความเป็นมาของประเพณีผูกเสี่ยว คุณสมบัติการที่จะเป็นคู่เสี่ยวกัน ซึ่งชาวต่างประเทศก็สามารถรับรู้ได้เพราะจะมีซับไตเติ้ลเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาเวียดนาม  และจะมีพิธีกรคุณครูจากโรงเรียนในสังกัดคอยแปลเป็นภาษาอังกฤษในคุ้มวัฒนธรรมด้วย
๓.การประกวดหมอลำทำนองอีสาน
๔.การประกวดสวดมนต์หมู่
๕.การประกวดสรภัญญ์
๖.การประกวดการแสดงวงดนตรีพื้นบ้านอีสานโปงลาง
๗.การประกวดกลองยาว
๘.การประกวดแคนวง
๙.สาธิตเพลงกล่อมลูกอีสาน
๑๐.สาธิตการเป่าแคนและลงข่วง จ่ายผญา
๑๑.การสาธิตการแสดงหมอลำหมู่
นอกจากนั้น ในคุ้มวัฒนธรรม หรือศาลาผูกเสี่ยว ยังมีการจัดซุ้มเทิดพระเกียรติ เพื่อให้ท่านผู้เกียรติ พี่น้องที่มาเที่ยวชมงาน ได้ลงนามถวายพระพรด้วย

กิจกรรมเสริมในงาน 
๑.การจัดซุ้มเฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้ผู้เข้าชมงาน ได้มีโอกาสลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๒.กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เรียกได้ว่า อเมซิ่งขอนแก่น ก็ว่าได้ โดยเราได้นำศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่น ออกมาปรากฏสู่สายตาผู้มาเที่ยวชมในงาน ด้วยการจัดนิทรรศการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่น จัดฉายภาพยนตร์สารคดีท่องเที่ยวจังหวัด ในหัวข้อเรื่อง “เที่ยวสุขใจไปกับ อบจ.ขอนแก่น” จัดเวทีการแสดงของหมู่บ้านงูจงอางแห่งประเทศไทย บ้านโคกสง่า อำเภอน้ำพอง   วิถีชีวิตคนกับงู    การแสดงของคณะเยาวชนจากหมู่บ้านเต่า บ้านกอก อำเภอมัญจาคีรี    การประชาสัมพันธ์โฮมสเตย์และผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกต่าง ๆ จากหมู่บ้านพัทยา ๒  หมู่บ้านเต่า หมู่บ้านหนองหญ้าปล้อง หมู่บ้านดอนมะค่า หมู่บ้านทุ่ม ไก่ย่างเขาสวนกวาง เป็นต้น  โดยบูธนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยวนี้ตั้งอยู่ข้างคุ้มวัฒนธรรม
๓.การจัดคุ้มสาธิตตามแนวพระราชปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  โดยจำลองการดำรงชีพวิถีอีสานความเป็นอยู่ของเกษตรกร ด้วยการจำลองบ้านที่อยู่อาศัย พร้อมตกแต่งเครื่องเรือน เครื่องใช้ในอดีตและปัจจุบัน   การสาธิตการเพาะเห็ด การเลี้ยงกบเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก   การทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ การปลูกพืชผักสวนครัว นิทรรศการส่งเสริมการขุดสระน้ำในไร่นา การทำเกษตรไร่นาสวนผสม ๑ ไร่ ๑ แสนบาท  การจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรและสินค้า OTOP
และกิจกรรมสำคัญลำดับที่ ๔ ก็คือจัดการแข่งขันตะกร้อ ภายใต้ชื่อว่า “โครงการแข่งขันตะกร้อเทศกาลงานไหม อบจ.ขอนแก่นคัพ ครั้งที่ ๙ ประจำปี ๒๕๕๗”  จัดแข่งขันในทุกคืนตั้งแต่คืนวันที่ ๑-๙ ธันวาคม ณ สนามหน้ากองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น  ซึ่งจะมีระดับทีมชาติ ทีมเยาวชน จากทั่วประเทศมาร่วมแข่งขัน รวมไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ทีม
รวมทั้งการแข่งขันมวยชกตามโครงการชกมวยไทยต้านภัยยาเสพติดเทศกาลไหมนานาชาติ ณ ลานจอดรถศูนย์สื่อสารเขต ๖ ขอนแก่น (ข้างศาลากลาง)
สรุป
ที่ได้นำเรียนมาในเบื้องต้นนี้ ท่านทั้งหลายจะเห็นได้ว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ร่วมเป็นเจ้าภาพงานเทศกาลไหม ประจำปี ๒๕๕๗ ใน ๕กิจกรรมใหญ่ ๆ ด้วยกันคือ 
๑.การจัดซุ้มเฉลิมพระเกียรติ
๒.คุ้มวัฒนธรรมกิจกรรมผูกเสี่ยว    
๓.การจัดบูธส่งเสริมการท่องเที่ยว  
๔.การจัดคุ้มสาธิตตามแนวพระราชปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ 
๕.การจัดการแข่งขันกีฬาตะกร้อและมวยชก ครับ   
ขอย้ำว่าทุกกิจกรรมชมฟรีครับ
สำหรับงบประมาณที่ใช้เพื่องานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี ๒๕๕๗  ในส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น แยกได้ดังนี้ ครับ
๑.อุดหนุนเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น จำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท
๒.ค่าใช้จ่ายเพื่อการแข่งขันตะกร้อเทศกาลงานไหม จำนวน ๔๗๖,๕๖๐ บาท
๓.ค่าใช้จ่ายเพื่อการแข่งขันมวยชกตามโครงการชกมวยไทยต้านภัยยาเสพติดเทศกาลไหมนานาชาติ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
๔.ค่าใช้จ่ายในการจัดนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยว จำนวน ๔๑๖,๘๐๐ บาท
๕.ค่าใช้จ่ายในกิจกรรม ณ คุ้มวัฒนธรรม(ศาลาผูกเสี่ยว)  จำนวน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท
๖.ค่าใช้จ่าย ณ คุ้มสาธิตตามแนวพระราชปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน ๒๗๗,๕๕๐ บาท
๗.ค่าพลุวันเฉลิมพระชนม์พรรษา ๕ ธันวาคม จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
รวมค่าใช้จ่ายประมาณ  ๓,๕๗๐,๙๑๐ บาท
องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ขอเชิญชวนทุกท่านได้มาเที่ยวงานเทศกาลงานไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี ๒๕๕๗  และยินดีต้อนรับทุกท่านที่จะได้เข้าเยี่ยมชมกิจกรรมในคุ้มวัฒนธรรม   บูธนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยว  คุ้มสาธิตตามแนวพระราชปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และชมการแข่งขันกีฬาตะกร้อและมวยชก ในทุกวันของการจัดงานระหว่างวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ถึงวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ ครับ
ขอขอบคุณครับ.

 

 



บทแถลงข่าว
งานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น
ประจำปี ๒๕๕๗
ในส่วนคุ้มวัฒนธรรม ศาลาผูกเสี่ยว
โดย ดร.พงษ์ศักดิ์  ตั้งวานิชกพงษ์
วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๕.๐๐ น. ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น
*****************
กล่าวทักทาย
• ท่านผู้ร่วมแถลงข่าว คุณพัชนี  สภา ผอ.กลุ่มงานส่งเสริมศาสนาและวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น , คุณเอกชาตรี   สุขเสน ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน  และท่าน ดร.วิทยา  ทองดี ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
• ท่านผู้มีเกียรติ
• พี่น้องสื่อมวลชนทุกท่านครับ

กิจกรรมประเพณีผูกเสี่ยวในคุ้มวัฒนธรรม
การผูกเสี่ยวนั้น จะมีพิธีกรรมและอุปกรณ์ที่สำคัญ ประกอบด้วยพานบายศรีอาจเป็นบายศรี ๓ ชั้น ๕ ชั้น หรือ ๗ ชั้น และมีเครื่องประกอบอีกหลายอย่าง ได้แก่ สุรา ๑ ขวด ไข่ไก่ต้ม ๑ ฟอง ข้าวต้มมัด ๔ ห่อ กล้วยสุก ๔ ผล ข้าวเหนียวนึ่ง ๑ ปั้น ใบพืชที่เป็นมงคล เช่น ใบคูน ใบเงิน ใบทอง ใบยอ ดอกรัก และที่ขาดไม่ได้คือ ฝ้ายผูกแขน 
และมีการเชิญแขกมงคลมาร่วมพิธี มีคู่เสี่ยวนั่งล้อมพานบายศรี แล้วหมอพราหมณ์จะเริ่มพิธีด้วยการจุดเทียนที่พานบายศรี อัญเชิญเทวดาลงมาเป็นสักขีพยาน  ตะโกนเรียกขวัญของผู้ร่วมพิธีให้มาอยู่กับเนื้อกับตัว
จบแล้วหมอพราหมณ์และแขกมงคลจะนำด้ายมงคลผูกข้อมือของคู่ขวัญหรือคู่เสี่ยว พร้อมทั้งให้ศีลให้พร ให้รักใคร่สามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
ต่อจากนั้นคู่เสี่ยวก็จะผูกข้อมือซึ่งกันและกันเป็นอันเสร็จพิธี   
พิธีผูกเสี่ยวนี้จะทำให้พี่น้องชาวอีสานและชาวจังหวัดขอนแก่นเกิดความห้วงแหนและช่วยกันอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามนี้ไว้
ทำไมองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น จึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดงานเทศกาลไหมประเพณีผูกเสี่ยว ก็ขอเรียนว่า “เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ” หน้าที่ในการบำรุงศิลปะจารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น  ที่สำคัญคือได้รับเกียรติจากจังหวัดขอนแก่น ในการจัดงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๗ โดยได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดกิจกรรมที่คุ้มวัฒนธรรม หรือที่เรียกว่า ศาลาผูกเสี่ยว จนถึงปัจจุบัน
สำหรับกิจกรรมในศาลาผูกเสี่ยว ในช่วงงานเทศกาลไหมนานาชาติ  ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี ๒๕๕๗ มีหลากหลาย  ตื่นตาตื่นใจสมกับการเป็นคุ้มวัฒนธรรมจริง ๆ และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมอีสานด้วย ครับ    กิจกรรมมีทั้งภาคกลางวัน และกลางคืนตลอดการจัดงาน ที่น่าสนใจมีดังนี้ครับ
๑.การประกวดพานบายศรี
๒.พิธีผูกเสี่ยว โดยในวันแรกของงานจะมีพิธีผูกเสี่ยวเอก ๙ คู่ ซึ่งเป็นคู่เสี่ยวจากภาคราชการ ธุรกิจเอกชน และประชาชน
สำหรับในวันอื่น ๆ ก็จะมีพิธีผูกเสี่ยวของคู่เสี่ยวเฉลิมพระเกียรติ ๙ คู่ ในทุกคืน 
และในทุกคืน ท่านที่มาชมงานในคุ้มวัฒนธรรม สามารถที่จะพาเพื่อนรัก เพื่อนสนิทมาผูกเสี่ยวได้ จะเป็นชายคู่กับชาย  หญิงคู่กับหญิง  หรือหญิงคู่กับชาย ก็ได้ หรือมากันหลายคนจะผูกเสี่ยวหมู่ก็ได้   โดย อบจ.ขอนแก่น ได้จัดหมอพราหมณ์ไว้บริการทำพิธีคืนละ ๒ ท่าน  และทุกท่านที่มาผูกเสี่ยวจะได้รับเกียรติบัตร ซึ่งลงนามรับรองโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น    เรียนว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น นะครับ
ทั้งนี้ก่อนที่จะผูกเสี่ยวกัน ท่านจะได้รับความรู้จากวีดีทัศน์เกี่ยวความเป็นมาของประเพณีผูกเสี่ยว คุณสมบัติการที่จะเป็นคู่เสี่ยวกัน ซึ่งชาวต่างประเทศก็สามารถรับรู้ได้เพราะจะมีซับไตเติ้ลเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาเวียดนาม  และจะมีพิธีกรคุณครูจากโรงเรียนในสังกัดคอยแปลเป็นภาษาอังกฤษในคุ้มวัฒนธรรมด้วย
๓.การประกวดหมอลำทำนองอีสาน
๔.การประกวดสวดมนต์หมู่
๕.การประกวดสรภัญญ์
๖.การประกวดการแสดงวงดนตรีพื้นบ้านอีสานโปงลาง
๗.การประกวดกลองยาว
๘.การประกวดแคนวง
๙.สาธิตเพลงกล่อมลูกอีสาน
๑๐.สาธิตการเป่าแคนและลงข่วง จ่ายผญา
๑๑.การสาธิตการแสดงหมอลำหมู่
นอกจากนั้น ในคุ้มวัฒนธรรม หรือศาลาผูกเสี่ยว ยังมีการจัดซุ้มเทิดพระเกียรติ เพื่อให้ท่านผู้เกียรติ พี่น้องที่มาเที่ยวชมงาน ได้ลงนามถวายพระพรด้วย

กิจกรรมเสริมในงาน 
๑.การจัดซุ้มเฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้ผู้เข้าชมงาน ได้มีโอกาสลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๒.กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เรียกได้ว่า อเมซิ่งขอนแก่น ก็ว่าได้ โดยเราได้นำศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่น ออกมาปรากฏสู่สายตาผู้มาเที่ยวชมในงาน ด้วยการจัดนิทรรศการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่น จัดฉายภาพยนตร์สารคดีท่องเที่ยวจังหวัด ในหัวข้อเรื่อง “เที่ยวสุขใจไปกับ อบจ.ขอนแก่น” จัดเวทีการแสดงของหมู่บ้านงูจงอางแห่งประเทศไทย บ้านโคกสง่า อำเภอน้ำพอง   วิถีชีวิตคนกับงู    การแสดงของคณะเยาวชนจากหมู่บ้านเต่า บ้านกอก อำเภอมัญจาคีรี    การประชาสัมพันธ์โฮมสเตย์และผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกต่าง ๆ จากหมู่บ้านพัทยา ๒  หมู่บ้านเต่า หมู่บ้านหนองหญ้าปล้อง หมู่บ้านดอนมะค่า หมู่บ้านทุ่ม ไก่ย่างเขาสวนกวาง เป็นต้น  โดยบูธนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยวนี้ตั้งอยู่ข้างคุ้มวัฒนธรรม
๓.การจัดคุ้มสาธิตตามแนวพระราชปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  โดยจำลองการดำรงชีพวิถีอีสานความเป็นอยู่ของเกษตรกร ด้วยการจำลองบ้านที่อยู่อาศัย พร้อมตกแต่งเครื่องเรือน เครื่องใช้ในอดีตและปัจจุบัน   การสาธิตการเพาะเห็ด การเลี้ยงกบเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก   การทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ การปลูกพืชผักสวนครัว นิทรรศการส่งเสริมการขุดสระน้ำในไร่นา การทำเกษตรไร่นาสวนผสม ๑ ไร่ ๑ แสนบาท  การจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรและสินค้า OTOP
และกิจกรรมสำคัญลำดับที่ ๔ ก็คือจัดการแข่งขันตะกร้อ ภายใต้ชื่อว่า “โครงการแข่งขันตะกร้อเทศกาลงานไหม อบจ.ขอนแก่นคัพ ครั้งที่ ๙ ประจำปี ๒๕๕๗”  จัดแข่งขันในทุกคืนตั้งแต่คืนวันที่ ๑-๙ ธันวาคม ณ สนามหน้ากองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น  ซึ่งจะมีระดับทีมชาติ ทีมเยาวชน จากทั่วประเทศมาร่วมแข่งขัน รวมไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ทีม
รวมทั้งการแข่งขันมวยชกตามโครงการชกมวยไทยต้านภัยยาเสพติดเทศกาลไหมนานาชาติ ณ ลานจอดรถศูนย์สื่อสารเขต ๖ ขอนแก่น (ข้างศาลากลาง)
สรุป
ที่ได้นำเรียนมาในเบื้องต้นนี้ ท่านทั้งหลายจะเห็นได้ว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ร่วมเป็นเจ้าภาพงานเทศกาลไหม ประจำปี ๒๕๕๗ ใน ๕กิจกรรมใหญ่ ๆ ด้วยกันคือ 
๑.การจัดซุ้มเฉลิมพระเกียรติ
๒.คุ้มวัฒนธรรมกิจกรรมผูกเสี่ยว    
๓.การจัดบูธส่งเสริมการท่องเที่ยว  
๔.การจัดคุ้มสาธิตตามแนวพระราชปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ 
๕.การจัดการแข่งขันกีฬาตะกร้อและมวยชก ครับ   
ขอย้ำว่าทุกกิจกรรมชมฟรีครับ
สำหรับงบประมาณที่ใช้เพื่องานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี ๒๕๕๗  ในส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น แยกได้ดังนี้ ครับ
๑.อุดหนุนเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น จำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท
๒.ค่าใช้จ่ายเพื่อการแข่งขันตะกร้อเทศกาลงานไหม จำนวน ๔๗๖,๕๖๐ บาท
๓.ค่าใช้จ่ายเพื่อการแข่งขันมวยชกตามโครงการชกมวยไทยต้านภัยยาเสพติดเทศกาลไหมนานาชาติ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
๔.ค่าใช้จ่ายในการจัดนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยว จำนวน ๔๑๖,๘๐๐ บาท
๕.ค่าใช้จ่ายในกิจกรรม ณ คุ้มวัฒนธรรม(ศาลาผูกเสี่ยว)  จำนวน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท
๖.ค่าใช้จ่าย ณ คุ้มสาธิตตามแนวพระราชปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน ๒๗๗,๕๕๐ บาท
๗.ค่าพลุวันเฉลิมพระชนม์พรรษา ๕ ธันวาคม จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
รวมค่าใช้จ่ายประมาณ  ๓,๕๗๐,๙๑๐ บาท
องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ขอเชิญชวนทุกท่านได้มาเที่ยวงานเทศกาลงานไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี ๒๕๕๗  และยินดีต้อนรับทุกท่านที่จะได้เข้าเยี่ยมชมกิจกรรมในคุ้มวัฒนธรรม   บูธนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยว  คุ้มสาธิตตามแนวพระราชปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และชมการแข่งขันกีฬาตะกร้อและมวยชก ในทุกวันของการจัดงานระหว่างวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ถึงวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ ครับ
ขอขอบคุณครับ.

การเปรียบเทียบคำว่า "เสี่ยว" กับวัฒนธรรมอื่น อาจทำให้เข้าใจความหมายของคำนี้ได้ดีขึ้น เขายกตัวอย่างของ "เสี่ยว" ในประวัติศาสตร์ เช่น เมื่อ สามกษัตริย์ คือ พญามังราย พ่อขุนรามคำแหง และ พญางำเมือง กรีดเลือดสาบานกันเป็นสหาย อันนำไปสู่การสร้างเมืองเชียงใหม่ การสาบานเป็นสหายครั้งนั้น ถือได้ว่าเป็นความหมายที่เหมือนกับการ "ผูกเสี่ยว" ของอีสาน

 

 

 

 


บทแถลงข่าว
งานเทศกาลไหม ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น
ประจำปี ๒๕๕๖
ในส่วนคุ้มวัฒนธรรม ศาลาผูกเสี่ยว
โดย ดร.พงษ์ศักดิ์  ตั้งวานิชกพงษ์
วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ณ ห้องแสดงใหญ่ สทท.ขอนแก่น
*****************
กล่าวทักทาย
• ท่านสมศักดิ์   สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น 
• ท่านเซียะ ฝู เกิน กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดขอนแก่น 
• ท่านเหวียน ฮิว ดิ๊น กงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประจำจังหวัดขอนแก่น 
• ท่านสินใจ  มนีวรรณ์ รักษาการกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย ณ ขอนแก่น 
• ท่านนิภา  สุวรรณสุจริต  นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น
• ท่านผู้มีเกียรติ
• ท่านผู้ชม ผู้ฟังที่อยู่ทางบ้าน และพี่น้องสื่อมวลชนทุกท่านครับ

กิจกรรมประเพณีผูกเสี่ยวในคุ้มวัฒนธรรม
ก่อนอื่นขอกล่าวถึงประเพณีผูกเสี่ยว ที่จะจัดในคุ้มวัฒนธรรมหรือศาลาผูกเสี่ยว  ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เป็นเจ้าภาพ รับผิดชอบดำเนินการก่อนนะครับ
ประเพณีผูกเสี่ยว มีพิธีกรรมและอุปกรณ์ที่สำคัญ ประกอบด้วยพานบายศรีอาจเป็นบายศรี ๓ ชั้น ๕ ชั้น หรือ ๗ ชั้น และมีเครื่องประกอบอีกหลายอย่าง ได้แก่ สุรา ๑ ขวด ไข่ไก่ต้ม ๑ ฟอง ข้าวต้มมัด ๔ ห่อ กล้วยสุก ๔ ผล ข้าวเหนียวนึ่ง ๑ ปั้น ใบพืชที่เป็นมงคล เช่น ใบคูน ใบเงิน ใบทอง ใบยอ ดอกรัก และที่ขาดไม่ได้คือ ฝ้ายผูกแขน  โดยเชิญแขกมงคลมาร่วมพิธี มีคู่เสี่ยวนั่งล้อมพานบายศรี แล้วหมอพราหมณ์จะเริ่มพิธีด้วยการจุดเทียนที่พานบายศรี อัญเชิญเทวดาลงมาเป็นสักขีพยาน เมื่อถึงบทเชิญขวัญผู้ร่วมพิธีจะตะโกนเรียกขวัญของผู้ร่วมพิธีให้มาอยู่กับเนื้อกับตัว จบแล้วหมอพราหมณ์และแขกมงคลจะนำด้ายมงคลผูกข้อมือของคู่ขวัญหรือคู่เสี่ยว พร้อมทั้งให้ศีลให้พร ให้รักใคร่สามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ต่อจากนั้นคู่เสี่ยวก็จะผูกข้อมือซึ่งกันและกันเป็นอันเสร็จพิธี    ซึ่งกิจกรรมนี้จะมีการถ่ายทอดในพิธีเปิดงานและเปิดคุ้มวัฒนธรรม ท่านที่ชมทีวีอยู่ที่บ้านก็จะได้เห็นพิธีกรรมนี้พร้อม ๆ กับท่านที่มาชมงานในวันพิธีเปิดงาน ซึ่งประเพณีผูกเสี่ยวนี้ จะทำให้พี่น้องชาวอีสานและชาวจังหวัดขอนแก่นเกิดความห้วงแหนและช่วยกันอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามนี้ไว้
หลายท่านอาจจะมีคำถามว่า ทำไมองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น จึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดงานเทศกาลไหมประเพณีผูกเสี่ยว ก็ขอเรียนว่า “เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ” เพราะกฎหมายกำหนดให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดมีอำนาจหน้าที่ในการบำรุงศิลปะจารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น  ที่สำคัญคือได้รับเกียรติจากจังหวัดขอนแก่น ในการจัดงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๗ โดยได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดกิจกรรมที่คุ้มวัฒนธรรม หรือที่เรียกว่า ศาลาผูกเสี่ยว จนถึงปัจจุบัน
สำหรับกิจกรรมในศาลาผูกเสี่ยว ในช่วงงานเทศกาลไหมนานาชาติ  ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี ๒๕๕๖ มีหลากหลาย  ตื่นตาตื่นใจสมกับการเป็นคุ้มวัฒนธรรมจริง ๆ และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมอีสานด้วย ครับ    กิจกรรมมีทั้งภาคกลางวัน และกลางคืนตลอดการจัดงาน ที่น่าสนใจมีดังนี้ครับ
๑.การประกวดพานบายศรี
๒.พิธีผูกเสี่ยว โดยในวันแรกของงานจะมีพิธีผูกเสี่ยวเอก ๙ คู่ ซึ่งในปีนี้จะมีคู่เสี่ยวนานาชาติมาร่วมด้วย ซึ่งเป็นปีที่สองแล้วครับ  โดยได้รับเกียรติจากท่านเถา หย่ง เฉวียน กงสุลประจำสถานกงสุลสาธารณรัฐประชาชนจีน จังหวัดขอนแก่น จะเป็นคู่เสี่ยวกับท่านชัยวาล  พรอมรธรรม รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น   ท่านมาดาม เหอ  ชูฉัน ภรรยาท่านกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน จังหวัดขอนแก่น จะเป็นคู่เสี่ยวกับคุณปราณี  ธีรภานุ ประธานกิติมาศักดิ์หอการค้าจังหวัดขอนแก่น   มิสเตอร์ วู๋ กวางดาว กงสุลสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำจังหวัดขอนแก่น จะเป็นคู่เสี่ยวกับท่านวิทูรย์   กมลนฤเมธ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น   และยังมีคู่เสี่ยวจากภาคประชาชน และภาคราชการ รวมแล้วคู่เสี่ยวเอก ๙ คู่ครับ
สำหรับในวันอื่น ๆ ก็จะมีพิธีผูกเสี่ยวของคู่เสี่ยวเฉลิมพระเกียรติ ๙ คู่ ในทุกคืน  นอกจากการผูกเสี่ยวของคู่เสี่ยวเฉลิมพระเกียรติแล้ว   ในทุกคืน ท่านที่มาชมงานในคุ้มวัฒนธรรม สามารถที่จะพาเพื่อนรัก เพื่อนสนิทมาผูกเสี่ยวได้ จะเป็นชายคู่กับชาย  หญิงคู่กับหญิง  หรือหญิงคู่กับชาย ก็ได้ หรือมากันหลายคนจะผูกเสี่ยวหมู่ก็ได้   โดย อบจ.ขอนแก่น ได้จัดหมอพราหมณ์ไว้บริการทำพิธีคืนละ ๒ ท่าน  และทุกท่านที่มาผูกเสี่ยวจะได้รับเกียรติบัตร ซึ่งลงนามรับรองโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เรียนว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น นะครับ
ทั้งนี้ก่อนที่จะผูกเสี่ยวกัน ท่านจะได้รับความรู้จากวีดีทัศน์เกี่ยวความเป็นมาของประเพณีผูกเสี่ยว คุณสมบัติการที่จะเป็นคู่เสี่ยวกัน ซึ่งชาวต่างประเทศก็สามารถรับรู้ได้เพราะจะมีซับไตเติ้ลเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาเวียดนาม  และจะมีพิธีกรคุณครูจากโรงเรียนในสังกัดคอยแปลเป็นภาษาอังกฤษในคุ้มวัฒนธรรมด้วย
๓.การประกวดหมอลำกลอน
๔.การประกวดสวดมนต์หมู่
๕.การประกวดสรภัญญ์
๖.การประกวดการแสดงวงดนตรีพื้นบ้านอีสานโปงลาง
๗.สาธิตเพลงกล่อมลูกอีสาน
๘.สาธิตการเป่าแคนและลงข่วง
๙.การสาธิตการจ่ายผญา
นอกจากนั้น ในคุ้มวัฒนธรรม หรือศาลาผูกเสี่ยว ยังมีการจัดซุ้มเทิดพระเกียรติ เพื่อให้ท่านผู้เกียรติ พี่น้องที่มาเที่ยวชมงาน ได้ลงนามถวายพระพรด้วย
กิจกรรมเสริมในงาน
กิจกรรมอื่น ๆ ในงานเทศกาลไหม ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ได้จัดขึ้นเพิ่มเติมเสริมในงาน ซึ่งไม่น้อยหน้ากิจกรรมในคุ้มวัฒนธรรม ก็คือ
๑.กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เรียกได้ว่า อเมซิ่งขอนแก่น ก็ว่าได้ โดยเราได้นำศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่น ออกมาปรากฏสู่สายตาผู้มาเที่ยวชมในงาน ด้วยการจัดนิทรรศการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่น จัดฉายภาพยนตร์สารคดีท่องเที่ยวจังหวัด ในหัวข้อเรื่อง “เที่ยวสุขใจไปกับ อบจ.ขอนแก่น” จัดเวทีการแสดงของหมู่บ้านงูจงอางแห่งประเทศไทย บ้านโคกสง่า อำเภอน้ำพอง   วิถีชีวิตคนกับงู    การแสดงของคณะเยาวชนจากหมู่บ้านเต่า บ้านกอก อำเภอมัญจาคีรี    การประชาสัมพันธ์โฮมสเตย์และผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกต่าง ๆ จากหมู่บ้านพัทยา ๒  หมู่บ้านเต่า หมู่บ้านหนองหญ้าปล้อง หมู่บ้านดอนมะค่า หมู่บ้านทุ่ม ไก่ย่างเขาสวนกวาง เป็นต้น  โดยบูธนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยวนี้ตั้งอยู่ข้างคุ้มวัฒนธรรม ใกล้ร้านธารากาชาด นั่นเองครับ
๒.การจัดคุ้มสาธิตตามแนวพระราชปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง บริเวณสนามหน้าศาลาประชาคมจังหวัดขอนแก่น  โดยจำลองการดำรงชีพวิถีอีสานความเป็นอยู่ของเกษตรกร ด้วยการจำลองบ้านที่อยู่อาศัย พร้อมตกแต่งเครื่องเรือน เครื่องใช้ในอดีตและปัจจุบัน   การสาธิตการเพาะเห็ด การเลี้ยงกบเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก   การทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ การปลูกพืชผักสวนครัว นิทรรศการส่งเสริมการขุดสระน้ำในไร่นา การทำเกษตรไร่นาสวนผสม ๑ ไร่ ๑ แสนบาท  การจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรและสินค้า OTOP และยังเพลิดเพลินกับหมอลำกลอนทุกคืนในคุ้มเศรษฐกิจพอเพียงนี้ด้วย
ในงานเทศกาลไหมนอกจากกิจกรรมในคุ้มวัฒนธรรม และบูธส่งเสริมการท่องเที่ยว และคุ้มสาธิตตามแนวพระราชปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แล้ว  องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ยังได้จัดการแข่งขันตะกร้อ ภายใต้ชื่อว่า “โครงการแข่งขันตะกร้อเทศกาลงานไหม อบจ.ขอนแก่นคัพ ครั้งที่ ๘ ประจำปี ๒๕๕๖”  จัดแข่งขันในทุกคืน ณ สนามหน้ากองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น  ซึ่งจะมีระดับทีมชาติ ทีมเยาวชน จากทั่วประเทศมาร่วมแข่งขัน

สรุป
ที่ได้นำเรียนมาในเบื้องต้นนี้ ท่านทั้งหลายจะเห็นได้ว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ร่วมเป็นเจ้าภาพงานเทศกาลไหม ประจำปี ๒๕๕๖ ใน ๔กิจกรรมใหญ่ ๆ ด้วยกันคือ  ๑.คุ้มวัฒนธรรมกิจกรรมผูกเสี่ยว     ๒.การจัดบูธส่งเสริมการท่องเที่ยว   ๓.การจัดคุ้มสาธิตตามแนวพระราชปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ  ๔.การจัดการแข่งขันกีฬาตะกร้อและมวยชก ครับ    ขอย้ำว่าทุกกิจกรรมชมฟรีครับ
สำหรับงบประมาณที่ใช้เพื่องานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี ๒๕๕๖  ในส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น แยกได้ดังนี้ ครับ
๑.อุดหนุนเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท
๒.ค่าใช้จ่ายเพื่อการแข่งขันตะกร้อเทศกาลงานไหม จำนวน ๔๙๐,๐๐๐ บาท
๓.ค่าใช้จ่ายเพื่อการแข่งขันมวยชกตามโครงการชกมวยไทยต้านภัยยาเสพติดเทศกาลไหมนานาชาติ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
๔.ค่าใช้จ่ายในการจัดนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยว จำนวน ๔๐๔,๑๐๐ บาท
๕.ค่าใช้จ่ายในกิจกรรม ณ คุ้มวัฒนธรรม(ศาลาผูกเสี่ยว)  จำนวน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท
๖.ค่าใช้จ่าย ณ คุ้มสาธิตตามแนวพระราชปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน ๑๖๐,๐๐๐ บาท
๗.ค่าพลุวันเฉลิมพระชนม์พรรษา ๕ ธันวาคม จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
รวมค่าใช้จ่ายประมาณ  ๓,๔๕๔,๑๐๐ บาท
องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ขอเชิญชวนทุกท่านได้มาเที่ยวงานเทศกาลงานไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี ๒๕๕๖  และยินดีต้อนรับทุกท่านที่จะได้เข้าเยี่ยมชมกิจกรรมในคุ้มวัฒนธรรม   บูธนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยว  คุ้มสาธิตตามแนวพระราชปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และชมการแข่งขันกีฬาตะกร้อและมวยชก ในทุกวันของการจัดงานระหว่างวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ถึงวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๖ ครับ